สวัสดีครับวันนี้เรามาคุยเรื่องการลงทุนกันบ้างครับ ในปัจจุบันการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบมากทุกคนสามารถลงทุนได้เหมือนกันหมดไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม วันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับการออมและลงทุนประเภทต่างๆครับการออมและลงทุนมีดังนี้
1.เงินฝากออมทรัพย์ จะได้ผลตอบแทนน้อยหรือแทบไม่ได้เลยแต่ก็ความเสี่ยงต่ำสุดๆ ถ้าเงินฝากประเภทออมทรัพย์จะได้ประมาณ 0.1 % ต่อปี ถ้าฝากประจำก็ประมาณ 0.5-2.0% ต่อปี
2.สลากออมทรัพย์ สินทรัพย์ประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากนิดหน่อยแต่แทบไม่มีความเสี่ยงเลยเช่นกัน สลากออมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ออมสิน ธกส ธอส อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ประมาณ 0.2-2%ต่อปี แต่สลากออมทรัพย์ชนิดต่างๆมักจะมีรางวัลไว้ให้เราลุ้นได้รางวัลใหญ่เดือนละ 1-2 ครั้ง
3.ประกันชีวิต สินทรัพย์ประเภทนี้เป็นสินทรัพย์ซื้อไว้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและมีเงินให้ลูกหลานหรือใช้ยามเกษียณนิดหน่อยผลตอบแทนถ้าเทียบกับประเภทอื่นจะน้อยมากๆถึงมากที่สุด
4.พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ สินทรัพย์ประเภทนี้มีระดับความเสี่ยงต่ำซึ่งจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 0.5-6% ต่อปี แล้วแต่ระยะเวลาและบริษัทที่เสนอขายหุ้นกู้
5.กองทุนรวม สินทรัพย์ประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ทุนจำกัด ทุนไม่พอที่จะกระจายความเสี่ยง และมีผู้บริหารกองทุนที่เป็นมืออาชีพในด้านการลงทุนประเภทต่างๆ กองทุนรวมมีหลากหลายรูปแบบ เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมอสังหา กองทุนรวมหุ้นกู้ กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งกองทุนเหล่านี้แบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ Active Fund กับ Passive Fund ส่วนใหญ่สินทรัพย์ประเภทนี้จะมีอัตราผลตอบแทนที่ประมาณปีละ 3-5 % ต่อปี
6.อสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์ประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นห่านทองคำชนิดหนึ่งจะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนี่ยมปล่อยเช่า บ้านปล่อยเช่า ตึกแถวปล่อยเช่า อพาร์ทเม้น หอพัก เป็นต้น สินทรัพย์พวกนี้จะมีข้อได้เปรียบกว่าสินทรัพย์อื่นๆก็คือสามารถกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกเพื่อลงทุนได้ ต่างจากสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ต้องใช้เงินสด ถ้าต้องการเน้นเก็งกำไร ที่ดินยิ่งเยอะราคาจะขึ้นได้ดีกว่าพวกคอนโดที่มีที่่ดินน้อย แต่สลับกัน คอนโดจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดีกว่า ซึ่งสินทรัพย์ประเภทนี้จะมีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 4-6% ต่อปี
7.หุ้นสามัญ สินทรัพย์ประเภทนี้ได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูงที่สุดและมีหลากหลายประเภทในตลาดหุ้นจะมีหุ้นให้เลือกมากมายหลายประเภทถ้าเราเป็นสาย VI (Value Investor) ก็ต้องเน้นหุ้นคุณค่าดูที่ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ อ่านงบการเงิน และวิเคราะห์ทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่เราสนใจจะลงทุนด้วย ถ้าเราเป็นสาย MI(Momentum Investor) ก็จะใช้เทรนของตลาดขาขึ้นขาลงในการเข้าทำ ถ้าเราเป็นสายเทคนิคก็จะเน้นดูกราฟเทคนิคเทรดทำกำไรระยะสั้นๆ ถ้าใครชอบหุ้นที่ปันผลสูงๆสร้างห่านทองคำได้ปันผลทุกปีก็สามารถทำได้ โดยเฉลี่ยแล้วสินทรัพย์ประเภทนี้จะมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 5-10% ต่อปี แต่นักลงทุนที่เก่งๆสามารถทำได้ถึง 20% ต่อปีก็เป็นไปได้
8.ทองคำ สินทรัพย์ประเภทนี้ไม่ได้สร้างกระแสเงินสดหรือผลตอบแทนสูงมากมายจึงเป็นสินทรัพย์เก็งกำไร แต่นักลงทุนส่วนใหญ่จะมีสะสมติดพอร์ตไว้เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ยึดถือว่า ทองคำคือสินทรัพย์ปลอดภัยไม่ว่าจะเกิด วิกฤต สงคราม หรือ เศรษฐกิจไม่ดี ทองคำก็ยังมีค่าและเป็นที่ต้องการ ทองคำในปัจจุบันมีราคาสูงกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่แปลกที่จะเป็นสินทรัพย์ที่น่าสะสม
9.คริปโทเคอร์เรนซี สินทรัพย์ใหม่มาแรงแห่งปีเป็นสินทรัพย์ดิจิตอลที่ทำงานอยู่บนเทคโนโลยีที่เรียกว่า BlockChain ซึ่งเหรียญที่โดดเด่นจะมี BTC, ETH, BNB, ADA, DOGEเป็นต้น ซึ่งแต่ละเหรียญจะมีคุณสมบัตรต่างกันเราสามารถลงทุนได้หลากหลายรูปแบบบนสินทรัพย์ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นสาย trader ซื้อมาขายไปเก็งกำไรระยะสั้นๆ หรือจะเป็นสายขุด POW (Proof Of Work) ที่เราจะเคยได้ยินคำว่า ขุดบิทคอย คือการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ การ์ดจอ หรือ ASIC มาทำการยืนยันธุรกรรมเพื่อได้ reward หรือจะเป็น POS (Proof Of Stake) เป็นการนำเหรียญไป stake เพื่อยืนยันธุรกรรมของเหรียญนั้นๆแทนการใช้เครื่องขุด ในการลงทุนประเภทนี้ยังมีอีกหลากหลายวิธีเช่น Defi yeild farming สินทรัพย์ประเภทนี้มีความผันผวนสูงซึ่งจะทำให้เราได้ผลตอบแทนสูงมากตามไปด้วย อย่างไรก็ตามต้องศึกษาให้เข้าใจกับสินทรัพย์ที่เราจะลงทุนครับ
10.สินทรัพย์ทางเลือก สินทรัพย์ทางเลือกต่างๆในบ้านเราเช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู กระเป๋าหรู เป็นต้น
สินทรัพย์เหล่านี้มักจะเป็นที่ต้องการของคนเฉพาะกลุ่มแต่ก็สามารถทำกำไรให้ได้เช่นกัน
บทความข้างต้นทำขึ้นมาเพื่อแนะนำสินทรัพย์ประเภทต่างๆเพื่อให้นักลงทุนมือใหม่สามารถตัดสินใจเลือกว่าสนใจสินทรัพย์ใด ส่วนเรื่องรายละเอียดของแต่ละสินทรัพย์หรือวิธีการลงทุนจะมาในบทความต่อๆไปครับ สุดท้ายนี้ขอให้ลงทุนอย่างมีความรู้ ลงทุนในสิ่งที่เราคุ้นเคยและรู้จักจะดีมากครับ ขอบคุณครับ